【ตราด】 ทริปเกาะกูด 3 วัน 2 คืน 3 สถานที่พักผ่อนลับ ๆ แต่ไม่ลับ ใกล้ชายแดนกัมพูชา #1 “เกาะกูดรีสอร์ท”

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่กับฉัน Lemon จาก Ramip! อีกเหมือนเคยค่ะ

ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ปี 2022 ฉันตัดสินใจไปเที่ยวที่เกาะกูด ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ฉันอยากไปเมื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทยนั่นเองค่ะ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นทริปแบบ 3วัน 2คืน ซึ่งบอกตรง ๆ ค่ะว่าสนุกได้เต็มที่เลยล่ะ และเนื่องจากรูปที่ถ่ายมา กับความประทับใจนั้นมีค่อนข้างเยอะเลยอาจจะยาวสักนิดนึง ครั้งนี้เรื่องราวบนเกาะกูดของเราเลยจะขอแบ่งเป็น 3 ตอนนะคะ

ก่อนอื่นค่ะ เกาะกูดที่เรากำลังจะไปกันในครั้งนี้ตั้งอยู่ในส่วนของจังหวัดตราดค่ะ แล้วก็ยังอยู่ใกล้กับชายแดนกัมภูชาอีกด้วยนะ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ค่ะเราไม่ได้บินไปด้วยเครื่องบินค่ะ แต่จะเป็นการขับรถกันไปจากกรุงเทพ ฯ ซึ่งก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากมายเท่าไหร่นัก เพราะเอาเข้าจริง ๆ ก่อนหน้าที่เราจะเริ่มต้นทริปเกาะกูดกันเราได้แวะไปทักทายเพื่อนที่จังหวักจัญทบุรี ซึ่งเป็นทางผ่อน และแวะเที่ยวทานอาหาร และพักกันที่จันทบุรีก่อน 1 คืนค่ะ พอเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึงเราก็ออกเดินทางต่อไปยังตราดทันที

โดยเมื่อมาถึงตราดกันแล้ว เราก็จะไปขึ้นเรือข้ามฟากกันที่ แหลมศอก นั่นเองค่ะ โดยเราได้ทำการจองล่วงหน้ากันไว้กับทาง BOONSIRI FERRY (เว็บไซต์) เป็นที่เรียบร้อย แน่นอนค่ะว่าก่อนมานั้นฉันก็ได้หาข้อมูลมาพอสมควร และเรือเจ้านี้ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่ดีในหมู่คนไทยด้วยล่ะ ซึ่งในส่วนของค่าโดยสาร ไป-กลับ นั้นนะคะ จะตกที่คนละ 1,000 บาท โดยราคานี้นั้นรวมค่าบริการ รถรับส่งทั้งขาไปและขากลับ ระหว่างโรงแรม กับ ท่าเรือบนเกาะเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

ครั้งนี้ฉันเลือกพักโรงแรม 2 แห่งสำหรับทริป 3 วัน 2 คืน ในครั้งนี้ (เนื่องจากเราจองล่วงหน้าในช่วงกระชั้นชิดเลย เลยทำให้ที่พักค่อนข้างจะเต็ม แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีค่ะ) และก็ดีว่าเป็นเรื่องดีอีกเรื่องนั่นก็คือ เราสามารถเลือกสถานที่สำหรับรถรับส่งจากโรงแรม ไปท่าเรือต่างกันได้ด้วยล่ะ

อ๋อ แล้วก็ในส่วนของที่จอดรถนั้นนะคะ ทาง BOONSIRI FERRY (Google Map) ก็มีให้บริการเช่นกัน โดยเราสามารถจอดไว้ที่นั่นได้เลย ซึ่งค่าบริการก็จะอยู่ที่ วันละ 50 บาทเท่านั้นเองค่ะ

หลังจากจอดรถเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเตรียมตัวไปลงเรือกันค่ะ โดยระหว่างนี้เราจะไปแลกตั๋วเรือกัน ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ ณ ตอนนั้นจะมีแค่แสดงผลการฉีดวรรคซีน และรับสติ๊กเกอร์สำหรับขึ้นเรือที่แผนกต้นรับเท่านั้นเอง ซึ่งในวันนั้นลูกค้าจะค่อนข้างเยอะค่ะเนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาว

ระยะเวลาในการเดินทางจากท่าเรือแหลมศอกไปเกาะกูดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1ชั่วโมง และพอมาถึงเพียงแค่แจ้งชื่อโรงแรมที่คุณพัก คุณก็จะได้รับคำแนะนำว่าต้องขึ้นรถสองแถวคันไหน ซึ่งคนที่อยู่โรงแรมเดียวกันก็จะได้นั่งไปด้วยกันนั่นเองค่ะ ซึ่งจากตรงนี้เราก็ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาทีก็มาถึงยังโรงแรมแรกของเรากันแล้ว

สำหรับโรงแรมที่ฉันเลือกในวันแรกนี้นั้นก็คือ 「Koh Kood Resort (เกาะกูดรีสอร์ท)」นั่นเอง
ในครั้งนี้อย่างที่บอกค่ะว่าเรามีเวลาในการหาโรงแรมไม่ถึงเดือน ซึ่งทำให้หลาย ๆ โรงแรมถูกจองเต็มไปเกือบหมด ทำให้ครั้งนี้เรามีตัวเลือกไม่มากนักสำหรับทริปนี้ และผลก็คือที่พักในวันนี้ของเรานั่นเอง ซึ่งที่นี่ก็ถือได้ว่าเป็นโรงแรม 4 ดาวจำนวนไม่มากบนเกาะแห่งนี้ แต่ต้องยอมรับเลยค่ะว่าความประทับใจนี่เกินกว่าที่คาดหวังไว้มากเลยล่ะ

ก่อนอื่นก็เริ่มจากการเช็คอินกันก่อนเลยค่ะ ซึ่งก็จะเป็นการตรวจเอกสารทั้งหนังสือเดินทาง และเอกสารการฉีดวัคซีนต่าง ๆ ตามปกติเลยค่ะ และบริเวณที่อยู่ข้าง ๆ ล๊อบบี้ก็จะเป็นส่วนของห้องอาหารของทางโรงแรม และแน่นอนค่ะว่าวิวจากตรงนี้สวยมาก ๆ เลยล่ะ

หลังจากทำการเช็คอินอะไรเรียบร้อยแล้ว สต๊าฟของทางโรงแรมก็จะพาเราไปยังห้องพักกันค่ะ

ถึงแม้ว่าที่นี้จะเป็นโรงแรม 4 ดาวแต่ที่พักที่เราได้นั้นคือกระท่อมส่วนตัว ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวเลยล่ะ แต่ด้วยความที่อยู่ภายในธรรมชาติแบบนี้แน่นอนค่ะว่าก็ต้องมีแมลงบ้างเป็นธรรมดา ยากันยุงก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นนั่นเอง ฮ่า ๆ  

ในส่วนของเตียงนอนนั้นนะคะจะมีมุ้งกันยุงแบบรอบให้ สำหหรับใครกลัวโดนยุงกัดก็โล่งใจได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันจะกันยุงได้ขนาดไหนฉันเลยตัดสินใจเปิดแอร์ให้เย็นกว่าปกตินิดหน่อย แล้วห่มผ้าแบบแน่หนาเพื่อช่วยป้องกัน ฮ่า ๆ ใช่ค่ะมันได้ผลล่ะ

ในส่วนของห้องอาบน้ำและสุขานั้นจะอยู่ทางด้านหลังค่ะซึ่งค่อนข้างกว้างมาก ๆ เลยล่ะ ในวันที่ฉันไปไม่มีสบู่หรือแชมพูให้ ไม่แน่ใจว่าปกติมีไหม แต่ก็ไม่เป็นปํญหาค่ะเพราะฉันเตรียมมาเองเหหมือนกัน ยังไงแนะนำว่าเตรียมมาเผื่อไว้จะดีกว่านะคะ ในส่วนของไดร์เป่าผมนั้นในห้องพักจะมีให้ค่ะ

โอเคค่ะหลังจากจัดแจงเก็บสัมภาระเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะไปหามื้อกลางวันเติมพลังกันแล้วค่ะ เนื่องจากฉันคิดไว้ว่าจะทานมื้อเย็นกันที่โรงแรมที่พักอยู่แล้วมือกลางวันก็เลยขอเปลี่ยนบรรยากาศกันเล็กน้อย ฉันก็เลยเลือกที่จะไปทานมื้อกลางวันกันที่ห้องอาหารของโรงแรมข้าง ๆ นั่นก็คือ 「To The Sea The Resort KohKood (ทูเดอะซีเดอะรีสอร์ทเกาะกูด)」นั่นเอง

เอาจริง ๆ ฉันค่อนข้างสนใจโรงแรมแห่งนี้ หลังจากที่ได้เห็นภาพถ่ายจากใน Instragram แต่ฉันไม่สามารถจองได้ทันค่ะก็เลยอดไป แต่โชคดีค่ะที่ในส่วนของห้องอาหารนั้นเปิดให้แขกจากโรงแรมอื่นเข้าใช้บริการได้ ฉันเลยเดินเลาะชายหาดมานั่นเอง

สำหรับมื้ออาหารในวันนี้ ฉันเลือกเป็นพิซซ่ากับปลาหมึกย่าง รสชาตินี่ถือว่าอร่อยเลยค่ะ แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันถ้าเทียบกับโรงแรมที่เราพัก

ซึ่งที่นี่ก็มีจุดให้ถ่ายรูปยอดนิยมอยู่ค่อนข้างพอสมควรค่ะ ซึ่งหลังจากกินเสร็จ ก็ถ่ายรูปเล่นกันสักแปป แล้วจึงกลับโรงแรมกันนั่นเอง

ไปอ่านตอนที่ 2 ต่อกันเลย